รูเล็ต (Roulette) เป็นเกมพนันที่คนนิยมเล่นกันมากที่สุดเกมหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งแปลว่า “วงล้อเล็กๆ”
การเล่นรูเล็ตต์เกิดขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่มีนักประวัติศาสตร์หลายท่านเชื่อว่าจริงๆ รูเล็ตต์ถือกำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยนักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ และนักปรัชญาชาวฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง แบลซ ปัสกาล (Blaise Pascal) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มทฤษฎีสามเหลี่ยมปัสกาลที่หลายคนคุ้นหูนั่นเอง
ประวัติของรูเล็ต นั้นก็ถือได้ว่าน่าเหลือเชื่อ จริงๆ แล้วเรื่องเกมการพนันไม่ได้อยู่ในความคิดของปัสกาลตั้งแต่แรก เมื่อ ค.ศ. 1655 ปัสกาลตั้งใจจะสร้างเครื่องจักรนิรันดร์ (perpetual motion machine) ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เชื่อกันว่าจะสามารถสร้างพลังงานออกมาได้มากกว่าปริมาณที่ได้รับ แต่ความตั้งใจของเขาที่ขัดต่อกฎฟิสิกส์อย่างรุนแรงและไม่อาจเป็นจริงได้นั้นกลับเป็นจุดกำเนิดของวงล้อรูเล็ตซึ่งต่อมาใน ค.ศ. 1720 ได้มีการพัฒนากลไกจากการนำเกมวงล้อมาผสมรวมกับเกมจับสลากตัวเลขของฝรั่งเศสที่มีชื่อว่าบิริบี “Biribi” จนกลายเป็นวงล้อรูเล็ตที่ใช้กันในปัจจุบันวงล้อรูเล็ตถูกใช้ครั้งแรกที่คาสิโนในปารีสเมื่อช่วงปลายทศวรรษที่ 1790 และในศตวรรษที่ 19 รูเล็ตต์ก็แพร่หลายมากขึ้นทั่วทั้งทวีปยุโรปและประเทศสหรัฐฯ จนกลายเป็นเกมพนันที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากที่สุดของโลกมาจนถึงทุกวันนี้บางทีเราอาจจะต้องขอบคุณความผิดพลาดของปัสกาลที่กลายเป็นจุดกำเนิดของเกมการพนันที่เหล่านักพนันทั่วโลกต่างชื่นชอบ
วิธีเล่นรูเล็ต นั้นง่ายมากจนหลายคนสามารถเริ่มเล่นได้โดยไม่จำเป็นอ่านคู่มือเลยด้วยซ้ำ แต่การรู้กฎเบื้องต้นและรายละเอียดต่างๆ ของเกมก็สามารถทำให้ รวยในรูเล็ต สำคัญเช่นกัน
ก่อนจะอธิบายวิธีการเล่นรูเล็ต เราต้องเข้าใจรูปร่างลักษณะของวงล้อรูเล็ตก่อน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่
มีทั้งหมด 37 ช่อง ประกอบไปด้วยเลข 1-36 อยู่ในช่องสีแดงและสีดำสลับกัน และ หนึ่งฟิลด์ที่เป็นเลข 0 ในช่องสีเขียว บางครั้งก็เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “single zero roulette”
มีทั้งหมด 38 ช่อง ประกอบไปด้วยเลข 1-36 อยู่ในช่องสีแดงและสีดำสลับกัน และเลข 0 และ 00 ในช่องสีเขียว บางครั้งก็เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “double zero roulette”
กฎการเล่นก็เหมือนยุโรปทุกประการเพียงแค่ ถ้าลูกบอลไปลงช่อง 0 หรือ 00 จะถือว่า คาสิโนจะชนะ
นอกเหนือจากกฎที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ในบางครั้งรูเล็ตยังมี “กฎพิเศษ” ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้ผู้เล่นได้มีโอกาสชนะมากขึ้น ซึ่งกฎพิเศษที่นิยมใช้กันนั้นมี 3 กฎ ได้แก่
เป็นกฎที่นิยมใช้กันในยุโรป โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแปลความหมายตรงตัวได้ว่า “การแบ่ง” หมายความว่าดีลเลอร์จะแบ่งช่องหมายเลขออกเป็น 2 กลุ่ม เช่น สีดำ/สีแดง เลขคู่/เลขคี่ Manque (1-18) /Passe (19-36) เป็นต้น และหากสมมุติว่าลูกบอลตกลงไปในช่องสีดำ ผู้เล่นที่เลือกพนันช่องสีดำก็จะได้เงินไปด้วยแม้ว่าจะทายคนละหมายเลขกับช่องที่ลูกบอลตกลงไปก็ตาม ในกรณีที่ลูกบอลตกลงไปในช่องเลข 0 ผู้เล่นก็จะได้เงินพนันคืนเพียงครึ่งหนึ่งและเสียอีกครึ่งหนึ่งให้แก่ดีลเลอร์
เป็นกฎที่นิยมใช้ในฝรั่งเศสและประเทศอื่นในยุโรปเช่นกัน มีความหมายตรงตัวว่า “คุก” หมายความว่าในกรณีที่ลูกบอลตกลงไปในช่องเลข 0 เหรียญชิปของผู้เล่นแต่ละคนจะยังอยู่ในตาราง ซึ่งดีลเลอร์จะทำสัญลักษณ์ไว้เพื่อให้รู้ว่าเงินนั้นกำลังอยู่ใน “คุก” จากนั้นก็จะเล่นรอบต่อไป หากลูกบอลตกลงไปในช่องตามประเภทที่ผู้เล่นแต่ละคนทายไว้ในรอบก่อนหน้า เงินพนันที่อยู่ในคุกก็จะถูกส่งคืนให้แก่ผู้ชนะ ส่วนผู้แพ้ก็จะต้องเสียเงินส่วนนั้นไป เพราะฉะนั้น สมมุติว่าในรอบแรกเราทายว่าลูกบอลจะตกลงไปในช่องเลขคู่ และรอบต่อมาลูกบอลตกลงไปในช่องเลขคู่ เราจะได้เงินคืน
นิยมใช้ในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเล่นรูเล็ตแบบอเมริกันเสียมากกว่า ในความเป็นจริงแล้วเป็นกฎเดียวกันกับกฎ La Partage เลย แต่ต่างกันตรงที่กฎ Surrender จะใช้ทั้งช่องหมายเลข 0 และ 00 หากลูกบอลตกลงไปในสองช่องนี้ ผู้เล่นก็จะได้เงินพนันคืนเพียงครึ่งหนึ่งเช่นกัน
ในรัฐแคลิฟอร์เนียห้ามมีการเล่นเกมพนันที่ใช้ลูกบอลหรือลูกเต๋าซึ่งขัดกับวิธีการเล่นรูเล็ตต์อย่างรุนแรง เพราะฉะนั้น การเล่นรูเล็ตต์ที่คาสิโนในรัฐแคลิฟอร์เนียจะใช้ไพ่แทน โดยจะมีไพ่ทั้งหมด 38 ใบ บน มีตัวเลขอยู่บนไพ่แต่ละใบเหมือนกับช่องเลขหมายในวงล้อรูเล็ตต์แบบอเมริกัน หลังจากที่ผู้เล่นแต่ละคนเลือกหมายเลขแล้ว ดีลเลอร์ก็จะใส่ไพ่ทั้งหมดเข้าไปในเครื่องสับไพ่อัตโนมัติ และหมายเลขที่ถูกสุ่มเลือกออกมาก็จะเป็นหมายเลขที่ชนะไป
หากเราได้มีโอกาสไปคาสิโนที่แคลิฟอร์เนียก็ไม่ต้องแปลกใจเมื่อได้เห็นวิธีการเล่นรูเล็ตต์ในรูปแบบที่แตกต่างจากปกติ เพราะเกมพนันอื่นๆ ที่ใช้ลูกบอลหรือลูกเต๋าก็จะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายของรัฐเช่นกัน
ในการเล่นรูเล็ต ผู้เล่นสามารถเลือกว่าจะทายเลขกี่จำนวนก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถวางเงินพนันซึ่งจะแทนด้วยเหรียญชิปได้หลากหลายรูปแบบ วิธีการวางเหรียญชิปนั้นจะมีผลต่อโอกาสแพ้ชนะและอัตราต่อรองที่ต่างกันออกไป การวางเหรียญชิปในเกมรูเล็ตต์แบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบใหญ่ๆ
หมายถึงการวางเหรียญชิปที่สามารถวางบนตัวเลขในตารางได้เลย ซึ่งจะมีวิธีการวางทั้งหมด 8 วิธี
หมายถึงการวางเหรียญชิปที่ไม่สามารถวางบนตัวเลขในตารางได้ แต่จะต้องวางในช่องตามขอบนอกของตาราง อัตราลุ้น 1:1 หรือ ได้เสมอตัวหรือเท่าทุน มี 3 แบบ คือ
– แทงสีดำ/แดง
– แทงต่ำ(1-18)/สูง(19-36)
– แทงเลขคู่/เลขคี่
แน่ๆว่ารูปแบบนี้จะมีโอกาสได้เสีย 50:50 เว้นแต่ว่าเจ้ามือออกที่ช่อง 0 แล้วก็ 00 ที่ทำให้พวกเขาเหนือกว่านิดหน่อย แม้ว่าจะได้รับเงินกลับมาน้อยเมื่อเล่นชนะ แต่ว่าเหล่านักเดิมพันชอบ ใช้ผสมกับสูตรเดินเงินต่างๆ เพื่อให้ได้กำไรเพิ่ม
บางครั้งก็เรียกว่า “call bets” เป็นรูปแบบการวางเงินพนันพิเศษซึ่งผู้เล่นจะสามารถบอกดีลเลอร์ได้ว่าจะเลือกวางเหรียญชิปแบบใด และเป็นการพนันตามพื้นที่ของวงล้อรูเล็ตต์ที่ถูกแบ่งเอาไว้ ซึ่งจะมีความซับซ้อนกว่าการวางเงินพนันสองแบบแรกและไม่ได้นำมาใช้ที่คาสิโนทุกแห่ง
อัตราต่อรองอ๊อดและความน่าจะเป็นที่จะชนะในเกมรูเล็ตต์นั้นจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปแบบและวิธีการวางเงินพนัน รวมถึงประเภทของรูเล็ตต์ด้วย ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
หมายถึงการวางเหรียญชิปที่สามารถวางบนตัวเลขในตารางได้เลย ซึ่งจะมีวิธีการวางทั้งหมด 8 วิธี
วิธีวางพนัน | จำนวนหมายเลขที่ครอบคลุม | เงินรางวัล | โอกาสชนะ (ยุโรป) | โอกาสชนะ (อเมริกัน) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (ยุโรป) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (อเมริกัน) |
---|---|---|---|---|---|---|
แบบเต็งเลข (Straigth up) | 1 | 36:1 | 1/37 | 1/38 | 97.3% | 94.74% |
แบบค่อมเลข 2 ตัว(Split) | 2 | 18:1 | 2/37 | 2/38 | 97.3% | 94.74% |
แบบค่อมเลข 3 ตัว (Street) | 3 | 12:1 | 3/37 | 3/38 | 97.3% | 94.74% |
แบบค่อม 6 เลข (Six line) | 6 | 6:1 | 6/37 | 6/38 | 97.3% | 94.74% |
แบบค่อมเลข 4 ตัว (Corner) | 4 | 9:1 | 4/37 | 4/38 | 97.3% | 94.74% |
แบบค่อมเลข 3 ตัว (Trio) | 3 | 12:1 | 3/37 | – | 97.3% | – |
แบบค่อมเลข 4 ตัว (Basket) | 4 | 9:1 | 4/37 | – | 97.3% | – |
แบบค่อมเลข 5 ตัว (Top line) | 5 | 7:1 | – | 5/38 | – | 92.1% |
จะเห็นได้ว่าสัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืนในการวางพนันแบบแถวบนสุด (Top line) ในรูเล็ตต์แบบอเมริกันจะมีค่าน้อยที่สุด นั่นเป็นเพราะว่าการวางพนันแบบนี้ครอบคลุมหมายเลขทั้งหมด 5 จำนวน แต่กลับมีอัตราต่อรองเพียงแค่ 7 เท่าของเงินพนันที่วางไว้เท่านั้น เพราะฉะนั้น ผู้เล่นรูเล็ตต์แบบอเมริกันส่วนใหญ่จึงไม่นิยมเลือกวางพนันแบบนี้
หมายถึงการวางเหรียญชิพ ที่ไม่สามารถวางบนตัวเลขในตารางได้ แต่จะต้องวางในช่องตามขอบนอกของตาราง
วิธีวางพนัน | จำนวนหมายเลขที่ครอบคลุม | เงินรางวัล | โอกาสชนะ (ยุโรป) | โอกาสชนะ (อเมริกัน) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (ยุโรป) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (อเมริกัน) |
---|---|---|---|---|---|---|
แดง/ดำ (Red/Black) | 18 | 2:1 | 18/37 | 18/38 | 97.3% | 94.74% |
คู่/คี่ (Even/Odd) | 18 | 2:1 | 18/37 | 18/38 | 97.3% | 94.74% |
สูง/ต่ำ (High/Low) | 18 | 2:1 | 18/37 | 18/38 | 97.3% | 94.74% |
เต็งโซน (Dozen) | 12 | 3:1 | 12/37 | 12/38 | 97.3% | 94.74% |
แบบเต็งแถว (Column) | 12 | 3:1 | 12/37 | 12/38 | 97.3% | 94.74% |
พนันแบบงู (Snake bet) | 12 | 3:1 | 12/37 | 12/38 | 97.3% | 94.74% |
ตารางข้างบนนี้เป็นตัวเลขสำหรับการเล่นรูเล็ตต์แบบที่ไม่ใช้กฎพิเศษ ซึ่งหากนำกฎพิเศษมาคำนวณด้วยก็จะได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้
วิธีวางพนัน | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (แบบยุโรป) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (ยุโรป + La Partage) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (ยุโรป + En Prison) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (อเมริกัน) | สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน (อเมริกัน + Surrender) |
---|---|---|---|---|---|
แดง/ดำ (Red/Black) | 97.3% | 98.6% | 98.6% | 94.74% | 97.2% |
คู่/คี่ (Even/Odd) | 97.3% | 98.6% | 98.6% | 94.74% | 97.2% |
สูง/ต่ำ (High/Low) | 97.3% | 98.6% | 98.6% | 94.74% | 97.2% |
อัตราการได้เปรียบ หรือ “house edge” คืออัตราผลกำไรที่ผู้เล่นจะต้องเสียให้แก่คาสิโนในระยะยาว สำหรับรูเล็ตต์นั้นมีสูตรคำนวณอัตราการได้เปรียบง่ายๆ ดังนี้
อัตราการได้เปรียบ = 100% – สัดส่วนเงินที่ผู้เล่นจะได้คืน
นั่นหมายความว่าอัตราการได้เปรียบสำหรับการเล่นรูเล็ตต์ขั้นพื้นฐานจะเป็นดังต่อไปนี้
แต่เนื่องจากการเล่นรูเล็ตต์นั้นมีกฎพิเศษและข้อยกเว้นมากมาย ปัจจัยเหล่านี้ก็ส่งผลต่ออัตราการได้เปรียบของเกมนี้เช่นกัน
ยิ่งอัตราการได้เปรียบมีค่าน้อยเท่าไร ผู้เล่นก็จะมีโอกาสชนะและได้เงินมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้เล่นจะได้เปรียบจากการเพิ่มกฎพิเศษ La Partage และ EnPrison มากที่สุด และการเล่นรูเล็ตต์แบบยุโรปจะทำให้ผู้เล่นมีโอกาสชนะมากกว่าแบบอเมริกัน
หากจะให้เหล่านักพนันนึกถึงเกมพนันที่เป็นภาพจำของคาสิโน เชื่อว่า “รูเล็ต” จะต้องเป็นหนึ่งในเกมยอดฮิตที่อยู่ในใจของหลายๆ คน ถึงแม้ว่าจะมีรูปแบบที่หลากหลายและซับซ้อนในหลายระดับ แต่ด้วยอุปกรณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครอย่างวงล้อรูเล็ตต์และวิธีการเล่นขั้นพื้นฐานที่แสนจะง่ายดายทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมพนันที่คลาสสิกที่สุดเกมหนึ่งประจำคาสิโนทั่วโลก ผู้เล่นที่ไม่ได้เข้าใจกฎกติกาทั้งหมดก็สามารถสนุกได้เช่นกัน นี่เป็นเหตุผลที่รูเล็ตต์ยังคงเป็นที่นิยมไม่ว่าจะผ่านไปนานสักกี่ร้อยปี